ลูกจากความรักของเรา
ถ้อยคำจากพระเยซู
เจ้าเป็นลูกจากความรักของเรา เราเล็งเห็นว่าเจ้ายอมเสียสละ เราเล็งเห็นว่าเจ้าสละอะไรบ้างเพื่อเห็นแก่เรา เราจะมอบบำเหน็จรางวับมหาศาลให้แก่เจ้า
ความรักและการเจิมของเราจะพรั่งพรูมาสู่เจ้า ถึงแม้จะไม่เป็นที่ประจักษ์ชัดในผลงานยอดเยี่ยม และความสำเร็จใหญ่หลวง ทว่าจะเป็นที่ประจักษ์ชัดผ่านชีวิตของเจ้า ชีวิตและการรับใช้อย่างสัตย์ซื่อ การให้ การมอบความรักความห่วงใย การยอมสละความต้องการของตนเองทุกวัน เพื่อว่าสิ่งที่เจ้ามอบให้จะได้เบ่งบานในชีวิตผู้อื่น
หมายพึ่งเราลูกรัก เราจะฟื้นฟูเจ้า เราจะเสริมสร้างพละกำลังให้แก่เจ้า เราจะช่วยให้ความคิดของเจ้าปลอดโปร่ง เราจะมอบศรัทธาและกำลังใจให้แก่เจ้า เราชื่นชมผู้ที่ทำตามความประสงค์ของเรา ทั้งในช่วงเวลาที่สุขสบาย และในยามที่ทุกข์ยาก เราชื่นชมผู้ที่ติดตามเรา ไม่ว่าการงานจะใหญ่หรือเล็ก ก็เท่าเทียมกันในสายตาของเรา เพราะเราซาบซึ้งในความสัตย์ซื่ออย่างที่สุด ความสัตย์ซื่อนั้นจะถูกจารึกไว้ในท้องพระโรงบนสวรรค์ เราจะมอบบำเหน็จรางวัลให้แก่ผู้ที่มีความสัตย์ซื่อ
“ดีมาก เจ้าเป็นผู้รับใช้ที่ดีและสัตย์ซื่อ เจ้าสัตย์ซื่อ... มาร่วมยินดีในความสุขกับนายของเจ้าเถิด!” —มัทธิว 25:23
เห็นหน้ากัน
เราชื่นชอบที่ได้เดินเล่นกับเจ้ายามอาทิตย์อัศดง บนชายหาดแห่งชีวิต เหยียบย่างบนหาดทราย สัมผัสสายน้ำไหลเย็นที่สาดซัดมากระทบ ดุจความชุ่มฉ่ำจากพระคำ ที่หล่อหลอมหัวใจเราและผนึกเราไว้ด้วยกัน เมื่อดวงจันทร์ขึ้นสู่ฟากฟ้า และแสงจันทร์จับอยู่บนใบหน้าเจ้า สายลมพัดโชยเส้นผมของเจ้า เราโอบเจ้าไว้ในวงแขน และเช็ดน้ำตาให้เจ้า เราบอกเจ้าอย่างนุ่มนวลว่า เราจะเคียงข้างเจ้าเสมอไป
เราคอยเคียงข้างเสมอ แม้ในยามที่แสงจันทร์ไม่สาดส่อง ถึงแม้ดูเหมือนว่าดวงดาวไม่ส่องแสงระยิบระยับบนฟากฟ้า เมื่อเมฆหมอกบดบังไว้ แม้แต่ในยามที่สายฝนและลมพายุพัดกระหน่ำ
เมื่อเจ้าเข้ามาหาเรา และกล่าวว่า “ลูกจะเดินกับพระองค์ต่อไป” เจ้าก็เห็นเมฆหมอกม้วนตัวไป ดวงดาวส่องแสงระยิบระยังอีกครั้ง พระจันทร์เต็มดวงและทอแสงเจิดจ้าอย่างงดงาม ลมพายุสงบลง กลายเป็นสายลมอ่อนๆ
ขณะที่เจ้าดำเนินต่อไปในสิ่งที่เรามอบหมายไว้กับเจ้า เราสัญญาว่าเจ้าจะไม่พลาดพลั้ง เมื่อแขนของเจ้าอ่อนล้า เราจะยกชูไว้ เมื่อเท้าของเจ้าเมื่อยล้า เราจะมอบพละกำลังให้เจ้าก้าวต่อไป เราจะสถิตอยู่กับเจ้าเรื่อยไป จนถึงจุดหมายปลายทาง เราจะได้เห็นหน้ากัน เราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตลอดไป
“เวลานี้เราเห็นและเข้าใจพระเจ้าเพียงเล็กน้อย ราวกับภาพสะท้อนเมื่อมองดูกระจกที่ไม่ชัด แต่ในวันหนึ่งข้างหน้าเราจะเห็นพระองค์อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ เหมือนเห็นหน้ากัน เวลานี้ข้าพเจ้าเห็นแค่ลางเลือน แต่เมื่อถึงเวลานั้นข้าพเจ้าจะเห็นทุกอย่างชัดเจน เหมือนที่พระเจ้าเห็นจิตใจข้าพเจ้าอย่างแจ่มแจ้งในขณะนี้” — 1 โครินธ์ 13:12
ใบไม้ของเจ้าจะไม่เหี่ยวแห้ง
ลูกรัก เจ้าเปรียบดังต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ เกิดดอกออกผลตามฤดูกาล ใบไม้ของเจ้าจะไม่เหี่ยวแห้ง ไม่ว่าเจ้าทำสิ่งใด ก็จะเจริญก้าวหน้า เราช่วยให้เจ้าเจริญก้าวหน้า เรารดน้ำเจ้า ช่วยให้เจ้าแข็งแกร่ง และอวยพรให้เจ้าผลิดอกออกผลมากมาย ดุจต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ มีน้ำหล่อเลี้ยงให้ชุ่มชื่นฉันใด เจ้าก็ต้องรับการบำรุงเลี้ยงจากแสงแดด และรับไออุ่นจากความรักของเรา ริมสายธารจากพระคำของเรา และแสงสว่างยามกลางวันที่เราสร้างสรรค์ฉันนั้น
เราสถิตอยู่กับเจ้าตลอดช่วงเวลาที่เจ้ายังเยาว์วัย เราตระเตรียมและทะนุถนอมเจ้า ดุจหน่ออ่อนๆ ที่ผลิออกมาจากเมล็ดน้อยๆ เราให้เจ้าหยั่งรากในพระคำของเรา เราเลือกสรรเจ้าไว้ตั้งแต่แรกสร้างโลก เรามอบสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง พละกำลัง และการเจริญเติบโตให้แก่เจ้า ด้วยความรักและความอ่อนโยนยิ่งนัก
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ควรค่าไม่ใช่หรือ เจ้าเติบโตเป็นต้นไม้สูงใหญ่ที่แข็งแกร่งเพื่อเรา เจ้าแผ่กิ่งก้านออกไป เพื่อช่วยเหลือ เยียวยารักษา รับใช้ผู้อื่น และมอบกำลังใจให้ผู้คนมากมาย
“ต้นไม้แห่งชีวิตเติบโตในที่ซึ่งเกิดผลของการดำเนินชีวิตชอบธรรม และผู้ที่พิชิตดวงวิญญาณก็มีสติปัญญา” — สุภาษิต 11:30
ยึดมั่นไว้
ขอให้ปรารถนาความประสงค์ของเราในชีวิตเจ้า แสวงหาที่จะเรียนรู้และเจริญวัย แสวงหาที่จะเข้ามาใกล้ชิดเรา ในยามที่เจ้าเดินฝ่าแดนทุรกันดาร เพื่อเจ้าจะได้ผ่านพ้นออกมา กลายเป็นชายหญิงผู้มีความเข้าใจ มีความลึกซึ้ง และได้รับการเจิมจากพระวิญญาณของเรา
เราเองก็ใช้เวลาอยู่ตามลำพังในแดนทุรกันดาร เราเองก็ต้องผ่านช่วงเวลาการทดสอบเช่นกัน
เมื่อเจ้าพบว่าตัวเองอยู่ในแดนทุรกันดาร อย่าหวาดกลัว อย่ายอมแพ้ เพราะในยามเช่นนั้นแหละที่เราปลุกปั้น หล่อหลอม และสร้างเจ้าได้ การตัดสินใจว่าเจ้าจะเป็นภาชนะรูปแบบใดจะเกิดขึ้นตอนนั้น ในยามเช่นนั้นแหละที่เจ้าจะได้รู้จักเรา ไว้วางใจเรา และรักเรา
ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังและท้อแท้ ในช่วงเวลาที่เจ้ามองดูรอบข้าง และกล่าวว่า “เกิดอะไรขึ้น เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร” เมื่อเจ้ารู้สึกราวกับอยากจะบอกว่า “พระเจ้า เหตุใดจึงทอดทิ้งข้าฯ” ขอให้รู้ว่าเราสถิตอยู่กับเจ้าในช่วงเวลาเช่นนั้น
ขอให้ไว้วางใจเรายามที่อยู่ในแดนทุรกันดาร เพียงแต่ยึดมั่นไว้ เพียงแต่สละวิถีทางและความปรารถนาของตนเอง และกล่าวว่า “อย่าให้เป็นไปตามความประสงค์ของข้า แต่ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์” เมื่อนั้นแหละเราถึงจะไว้วางใจให้เจ้าได้รับพร การเจิม และพลังอำนาจจากพระวิญญาณ ซึ่งเราจะทุ่มเทให้กับเจ้าในวันข้างหน้า ขอให้อดทน และรู้ว่าเราคือผู้ที่ปั้นเจ้าขึ้นมา เจ้าเป็นดุจภาชนะ มอบชีวิตของเจ้าที่เป็นดุจดินอ่อนนุ่มให้กับเรา เราจะได้สร้างสรรค์เจ้าให้เป็นภาชนะที่มีประโยชน์ เหมาะกับการเลือกสรรของเรา เพราะเจ้าจะเป็นภาชนะตามที่เราเลือกสรร และตามที่เจ้าเลือกร่วมกัน
“เข้ามาใกล้พระเจ้า แล้วพระองค์จะใกล้ชิดท่าน” — ยากอบ 4:8
เจ้าโดยเฉพาะ
ถ้าเจ้ารู้สึกว่าเจ้าทำให้เราผิดหวัง ครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเจ้ารู้สึกว่าไม่เหมาะสม และบาปเกินกว่าที่จะควรค่ากับความรักของเรา เราอยากให้เจ้ารู้ว่าเรารักเจ้า เจ้าโดยเฉพาะ ถ้าเจ้ารู้สึกว่าถูกทับถม ราวกับว่าเจ้าจมอยู่ท่ามกลางทะเลอันทุกข์ตรม เราก็ยังรักเจ้า
ความรักของเราไขว่คว้าหาเจ้าในขณะนี้ เราพร้อมแล้วที่จะมอบความรัก การให้อภัย และความเมตตาของเรา เพื่อเจ้าโดยเฉพาะ ถ้าเจ้าเพียงแต่รับไว้ เราเฝ้าปรารถนาที่จะโอบกอดเจ้าไว้แนบชิดดวงใจเราด้วยความรัก เราเฝ้าปรารถนาที่จะกระซิบข้างหูเจ้า
เรารักเจ้า ยังไงก็ยังงั้น ราวกับว่ามีเจ้าผู้เดียว เราไม่ได้สะสมความล้มเหลว ความผิดพลาด และข้อบกพร่องของเจ้าไว้ทั้งหมด เพื่อคิดปรักปรำเจ้า เรามีสายตาเอ็กซเรย์ที่มองเห็นแต่สิ่งดีๆ และความเป็นไปได้ที่คนอื่นมองไม่เห็น เรามองเห็นทะลุปรุโปร่งถึงแก่นแท้ในใจเจ้า เรามอบเห็นหัวใจที่หาค่ามิได้ของเจ้า เรารักเจ้า
จัดพิมพ์ครั้งแรก ปี ค.ศ.1997 แก้ไขปรับปรุงและจัดพิมพ์ใหม่ เดือนเมษายน ค.ศ.2014