The Value of Diversity and Innovation to Ministry

เมษายน 30, 2018

โดย ปีเตอร์ อัมสเตอร์ดัม

 

[คุณค่าความหลากหลายและนวัตกรรมในงานรับใช้พระเจ้า]

พรสวรรค์มีหลายประการ แต่พระวิญญาณองค์เดียวกัน งานรับใช้มีหลายประเภท แต่รับใช้พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกัน มีกิจกรรมต่างๆ กัน แต่พระเจ้าองค์เดียวกันมอบพลังให้แก่ทุกคน ผลของพระวิญญาณที่ประจักษ์ชัดต่อแต่ละคน ก็เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นผลของพระวิญญาณองค์เดียวกัน และพระองค์มอบสิ่งเหล่านี้ให้แต่ละคนตามที่กำหนดไว้ — 1 โครินธ์ 12:4-7, 11

โลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ข้อมูลและความรู้ทวีคูณหลายเท่าตัว ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่หันไปทางไหนก็มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการค้นพบวิธีใหม่ที่รับมือความท้าทายที่ชาวโลกเผชิญหน้าในปัจจุบัน ทำไมการประกาศพระกิตติคุณและการเข้าถึงชาวโลกเพื่อพระคริสต์จะแตกต่างไปล่ะ ทำไมเราซึ่งเป็นผู้รับใช้พระองค์ ถึงไม่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และแสวงหาพระองค์เพื่อขอแนวคิดใหม่ๆ และวิธีการที่ล้ำหน้า ซึ่งจะเอื้ออำนวยให้คืบหน้าไปได้มากขึ้นหรือรวดเร็วขึ้น ในงานด้านพันธกิจ หรือทำให้ข่าวสารหรือวิธีการของเราตรงประเด็นมากขึ้นสำหรับผู้คน

ในสังคมปัจจุบันที่หลากหลายวัฒนธรรม ผู้คนย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ต่างๆ ทั่วโลก ทำให้ขอบเขตแบ่งวัฒนธรรมลางเลือนไป เรามองดูว่าความหลากหลายเป็นวิธีการที่ตรงประเด็นและเหมาะสม ในการตอบสนองความต้องการของชาวโลก ดังนั้นเราจึงส่งเสริมสมาชิกให้พัฒนาแนวคิดใหม่ และวิธีการที่สดๆ ร้อนๆ ในพันธกิจและการประกาศข่าวสาร ความคิดสร้างสรรค์และความคิดริเริ่มส่วนตัวนั้นสูงค่ามาก เมื่อพระเจ้ามอบแนวทาง และเราดำเนินการเพื่อติดตามพระองค์ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น[1]

เราต้องหาทางปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับกาลเวลา ขอให้พระองค์ชี้นำเราไปสู่วิธีการทันสมัยและสดใหม่ ซึ่งจะกระจายข่าวสารอย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น และเข้าถึงผู้ที่หลงทาง ในสภาวะของโลกปัจจุบัน น่าชื่นใจที่ได้เห็นวิธีใหม่ๆ ในการประกาศพระกิตติคุณ งอกงามขึ้นมาในเขตที่มีงานด้านพันธกิจหลายแห่ง เมื่อคุณเผชิญหน้าโดยตรงกับความต้องการของผู้คน คุณอธิษฐานและพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าถึงเขาด้วยความรักของพระเจ้า พระองค์จะส่งแนวคิดและแรงบันดาลใจใหม่ๆ มาให้ พระองค์เป็นพระเจ้าผู้มีชีวิตชีวาและเคลื่อนไหว พระองค์สามารถบ่งบอกกลยุทธ์ที่แตกต่างไปได้อย่างดี เมื่อจำเป็น เพื่อเข้าถึงเขตแดนหรือวัฒนธรรมใดโดยเฉพาะ ด้วยพระกิตติคุณ

วัฒนธรรมที่แตกต่างไปต้องอาศัยวิธีการที่ต่างกัน ดังที่อัครสาวกเปาโลแนะนำว่า เราควรจะ “เป็นคนทุกแบบต่อคนทั้งปวง เพื่อจะได้ช่วยบางคนให้รอด โดยทุกวิถีทางที่เป็นไปได้”[2]  เรานำประสบการณ์มาใช้ประโยชน์ได้ ในการชื่นชมค่านิยมการเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมท้องถิ่น การตระหนักถึงคำถาม ความปรารถนา ความฝัน และความปวดร้าวใจของผู้คน ในพื้นที่ซึ่งเราให้การอนุเคราะห์ นี่จึงทำให้เรามีประสิทธิผลมากขึ้น ในการกลายเป็น “พระคัมภีร์เดินได้” ต่อผู้ที่ขัดสน

ถ้าพระองค์มอบแนวคิดใหม่ๆ แก่คุณ เราขอส่งเสริมให้คุณอ้าแขนรับไว้ ลองทำ ดูว่าได้ผลอย่างไร บางทีอาจไม่ก่อเกิดผลเหมือนที่คุณคาดหมาย แต่ก็อีกนั่นแหละ บางทีอาจก่อเกิดผลมากกว่าที่คุณคาดหมายหลายเท่า คุณไม่มีวันรู้ ถ้าไม่ลองดู

พระเจ้าไม่ได้ชี้นำทุกคนไปบนเส้นทางเดียวกัน บางครั้งการเข้าถึงหรือวิธีการอาจดูแปลกมากสำหรับเรา เป็นสิ่งที่เราเองคงไม่ทำ แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าเราได้เห็นผลแสนวิเศษ จากการงานที่ไม่เป็นไปตามแบบแผน เรารู้สึกขอบคุณที่เพื่อนร่วมงานของเรามีศรัทธาและเชื่อฟัง โดยลงมือปฏิบัติการตามที่พระเจ้าแสดงต่อเขา

มีการเข้าถึงผู้คนในโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ ด้วยหนทางมากมายที่แตกต่างกันไป เราเห็นคุณค่าวิธีการหลากหลายที่เป็นไปได้ ในการประกาศพระกิตติคุณ เพราะเราเห็นคุณค่ารายบุคคลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ผู้ที่ต้องมีคนเข้าถึง

คุณไม่มีวันรู้ว่าการทดลองใดจะส่งผล นอกเสียจากว่าจะกล้าลองทำดู ถ้าเราสกัดกั้นการชี้นำของพระองค์ ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจพลาดวิธีการที่ก่อเกิดผลมาก ในการประกาศพระกิตติคุณ อย่ากลัวเปลวไฟจากแนวคิดและกลยุทธ์ใหม่ๆ เพียงเพราะว่าเราหรือคนอื่นไม่เคยลองทำมาก่อน ขอให้เราติดตามพระองค์ และดูว่าไออุ่นจากเปลวไฟและความจริงอะไรบ้าง ที่เรานำไปมอบให้ผู้ที่หลงทางในโลกส่วนของเราได้

2 ทิโมธี 1:6 กล่าวว่า “ข้าพเจ้าจึงขอเตือนท่านว่า จงให้พรสวรรค์ของพระเจ้าในตัวท่านนั้นลุกโชติช่วงขึ้น” อย่าจำกัดพระเจ้าไว้ในกรอบ เรามีขอบเขตและขีดจำกัดตามธรรมชาติ แต่พระเจ้าจะยอมไปถึงไหนถึงกัน เพื่อเข้าถึงดวงวิญญาณ พระองค์ไม่มีวันหมดแนวคิดหรือวิธีการใหม่ๆ พระเจ้ายิ่งใหญ่ ความคิดของพระองค์เหนือกว่าความคิดของเรา ดังนั้นการรับใช้พระองค์ในงานด้านพันธกิจ จึงเป็นการผจญภัยอย่างต่อเนื่อง ถ้าเราเต็มใจติดตามไปยังที่พระองค์ชี้นำ

เมื่อพระเจ้าชี้นำคุณให้ลองทำสิ่งใหม่ๆ และคุณมุ่งมั่นที่จะดำเนินการ ก็สอดคล้องกับการที่คุณได้รับคำสัญญาของพระเจ้า ข้อหนึ่งคือ “สำหรับพระเจ้าทุกสิ่งเป็นไปได้” การปรับคลื่นรับฟังเสียงของพระเจ้า และติดตามคำแนะนำจากพระองค์ จะทำให้คุณอยู่ในดินแดนที่ “อะไรก็เป็นไปได้สำหรับผู้ที่เชื่อ”[3] บางครั้งอาจต้องอาศัยศรัทธาแบบบ้าบิ่น ในการย่างก้าวออกไปเพื่อเชื่อฟังพระเจ้า แต่พระเจ้าให้เกียรติศรัทธาเช่นนั้น

ขอให้เปิดใจรับฟังเสียงพระองค์ และเต็มใจติดตาม ถึงแม้ว่าพระองค์ชี้นำคุณไปสู่ย่างก้าวเล็กๆ ถ้าพระเจ้าแสดงให้คุณทำบางสิ่ง แต่คุณไม่มีคุณสมบัติ ความรู้ หรือเวลาที่จำเป็น ขอให้คนอื่นช่วย สร้างทีมขึ้นมา นี่จะเปิดโอกาสให้คนอื่นที่ต้องการมีส่วนร่วม หรือคุณอาจเข้าร่วมโครงการที่ดำเนินงานอยู่แล้ว พระคัมภีร์กล่าวไว้ใน 1 โครินธ์ ว่า มีพรสวรรค์ งานรับใช้ และกิจกรรมหลากหลาย แต่เราทุกคนเป็นดุจร่างเดียวกันในพระคริสต์

งานประกาศข่าวสารบางอย่างอาจมีผลที่ชัดเจนมากกว่า และมีความคืบหน้าเป็นสถิติ งานบางอย่างมีผลน้อยกว่า และอาจขยายตัวช้ากว่า แต่ข้อหนึ่งก็คือ ยึดมั่นกับสิ่งที่พระเจ้ามอบหมายให้คุณทำ ต้องอาศัยเวลาในการบุกเบิก พัฒนา และสร้างงานให้มั่นคง ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน ผลงานยั่งยืนถาวรที่พระองค์มอบหมายและแต่งตั้งให้เราทำก็ต้องอาศัยเวลา แต่ถ้าคุณทำงานอย่างสัตย์ซื่อ และมีความอดทน ก็เป็นไปได้ที่วิธีการหรือแนวคิดที่พระเจ้ามอบให้คุณ หรือหนทางที่พระองค์เปิดให้คุณ อาจเติบโตเป็นการงานที่แสนวิเศษเพื่อพระองค์

“เมื่อพระเจ้ามอบแนวทาง และเราลงมือดำเนินการเพื่อติดตามพระองค์ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น”  การที่จะเชื่อว่าอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เราต้องมีศรัทธา มีศรัทธาแบบที่มาเรียเรียกว่า “ศรัทธาที่ว่าพระเยซูสถิตอยู่กับฉัน” เธออธิบายไว้ว่า

การมีศรัทธาในตนเองหมายถึง การมีศรัทธาในพระองค์ผู้สถิตอยู่ในคุณ ต้องอาศัยความถ่อมตนที่จะยอมรับว่าคุณขาดความสามารถ ในขณะเดียวกันก็ยอมรับความสามารถของพระองค์ ที่จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น โดยผ่านคุณ “ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้มอบพละกำลังแก่ข้าพเจ้า”[4]  ศรัทธาแบบนี้เปิดโอกาสให้พละกำลังของพระองค์ครบถ้วนสมบูรณ์ในความอ่อนแอของคุณ[5]  นี่คือการไม่จำกัดพลังของพระเจ้า เพราะไม่มีสิ่งใดที่เป็นไม่ได้สำหรับพระองค์

นี่คือศรัทธาที่เอื้อมไปคว้าไว้ คือการให้พระเจ้าใช้คุณ ในทางใดก็ตามที่พระองค์เห็นว่าเหมาะสม คือศรัทธาที่เชื่อมั่นในพระเยซู เป็นการผสมผสานความเชื่อมั่นในพระองค์ และการที่พระองค์ไม่ผิดพลาด กอปรกับศรัทธาของคุณที่จะลงมือปฏิบัติการตามความเชื่อมั่น

ถ้าคุณอยู่ในความประสงค์ของพระเจ้า ด้วยศรัทธา คุณจะสามารถทำอะไรก็ได้ ที่พระองค์มอบหมายให้ทำ

 จัดพิมพ์ครั้งแรก เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ปรับเปลี่ยนและจัดพิมพ์ใหม่ เดือนเมษายน ค.ศ 2018


[1] มาระโก 9:23

[2] 1 โครินธ์ 9:22

[3] มาระโก 9:23

[4] ฟีลิปปี 4:13

[5] 2 โครินธ์ 12:9

Copyright © 2024 The Family International