The Discipleship Journey

กรกฎาคม 21, 2016

โดย ปีเตอร์ อัมสเตอร์ดัม

[เส้นทางการเป็นสาวก]

การที่คุณรักพระเจ้า และดำเนินชีวิตตามศรัทธา เป็นเรื่องส่วนบุคคล สื่อสัมพันธ์ที่คุณมีกับพระเจ้าก็เป็นเรื่องของคุณ ถ้าคุณทราบหลักการที่อยู่ในพระคำของพระเยซู และในพระคัมภีร์โดยตลอด แล้วคุณนำหลักการดังกล่าวมาปรับใช้ คุณดำเนินชีวิตตามนั้น คุณก็สร้างสื่อสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีชีวิตชีวากับพระเจ้า นี่เป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่คุณมีกับพระองค์ โดยมีพื้นฐานจากการนำพระคำมาปรับใช้ รวมทั้งหลักการที่พระองค์มอบไว้สำหรับผู้ที่เลือกติดตามพระองค์ ถ้าคุณทำตามหลักการที่พระองค์ให้ไว้ จากคำสอนและแบอย่างของพระองค์เอง พระองค์จะชี้ให้คุณเห็นว่าควรจะนำหลักการดังกล่าวมาปรับใช้อย่างไร กับสถานการณ์ที่คุณประสบในชีวิต กุญแจสำคัญคือคุณรักพระองค์ และคุณดำเนินชีวิตตามศรัทธาที่พระองค์แสดงให้คุณเห็น โดยมีพื้นฐานจากหลักการที่พระองค์มอบไว้ในพระคำ

เช่นเดียวกันกับการประกาศพระกิตติคุณการเป็นพยานต่อผู้อื่นไม่ได้มีเพียงวิธีเดียว พระเจ้ามอบหมายให้ประกาศพระกิตติคุณ ให้แบ่งปันความรักและชีวิตของพระองค์กับผู้อื่น นั่นคือส่วนหนึ่งในการเป็นสาวก ทว่าคุณประกาศพระกิตติคุณที่ไหน อย่างไร และกับใคร สุดแล้วแต่พระเจ้าจะส่งคุณไปที่ไหน วิถีชีวิตที่พระองค์มอบหมายให้คุณ และผู้คนที่พระองค์นำมาตามเส้นทางของคุณ

เมื่อพระเยซูร้องเรียกว่า “ตามเรามา” พระองค์นำพาให้บางคนหล่อเลี้ยงคนจำนวนมาก บ้างก็หล่อเลี้ยงผู้คนในแวดวงเพื่อนมิตรและคนรู้จักมักคุ้น พระองค์นำพาให้บางคนไปต่างแดน บ้างก็หล่อเลี้ยงผู้คนในละแวกบ้าน บ้างก็หล่อเลี้ยงบุตรหลานของเขาเอง พระองค์มอบหมายให้ประกาศพระกิตติคุณในแวดวงที่พระองค์มอบหมายแก่คุณ การเชื่อฟัง และทำงานมอบหมาย คือการเข้าถึงผู้คนที่พระองค์นำมาสู่เส้นทางของคุณ

ชีวิตทางวิญญาณก็เป็นเหมือนการเดินทาง แต่ละคนเริ่มต้นแตกต่างกันไป ฝีเท้าก็แตกต่างกัน พระองค์อาจมอบหมายให้คุณเดินเคียงข้างใครชั่วระยะหนึ่ง เพื่อปลูกฝังความรัก ความจริง และพระคำ พร้อมกับร่วมมิตรภาพ คุณอาจหว่านเมล็ดหรือรดน้ำ โดยช่วยเขาก้าวไปสู่การเป็นสาวก หรือช่วยเขาให้เติบโตในการเป็นสาวก ถ้าเขามาถึงจุดที่พร้อมจะถวายตัวต่อพระเจ้ามากขึ้น คุณมีหน้าที่ช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา เมื่อเขาถาม ก็แบ่งปันหลักการของพระเจ้ากับเขา ช่วยเขาให้เข้าใจพระคำและหนทางของพระองค์ มอบกำลังใจและสนับสนุน ร่วมทางไปกับเขา ในการเป็นสาวก

การสอนและช่วยให้ใครเป็นสาวกต้องใช้เวลา แต่เมื่อเราช่วยใครให้เป็นสาวกได้อย่างมีประสิทธิผล แม้แต่คนเดียว ก็เป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เราอาจมีแนวโน้มที่จะมองความสำเร็จในการสอนผู้อื่น โดยยึดจากจำนวนคนที่เราสอน แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น คุณเพียงทำตามที่พระเจ้ามอบหมาย โดยเป็นพยานและสอนผู้ที่พระเจ้านำมาตามเส้นทาง แล้วคุณจะสร้างความแตกต่าง

นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี กล่าวว่า “ไม่มีประโยชน์ที่จะเดินไปประกาศที่ไหน นอกเสียจากว่าจะเดินไปประกาศไป” พละกำลังและเจตนารมณ์ในการบอกเล่าถึงพระองค์ เริ่มต้นจากการที่เรารักพระองค์การที่เราเชื่อมสัมพันธ์กับพระองค์ เนื่องจากว่าเรารักพระองค์ เราก็จะดำเนินชีวิตตามพระองค์ แล้วคนอื่นจะรู้สึกถึงพระองค์ผ่านตัวเรา คุณดำเนินชีวิตอย่างไร คุณสื่อความหมายพระเยซูอย่างไร จะสร้างความแตกต่างต่อการบรรลุผลในงานมอบหมายที่ยิ่งใหญ่ ในบ้านเมือง จังหวัด หรือประเทศของคุณ

ความสามารถของคริสเตียนในการเป็นพยาน การดำเนินชีวิตเยี่ยงสาวก การประกาศพระเยซู และสอนถึงพระองค์ มาจากการทำตามที่พระเจ้ามอบหมายให้แก่สาวก โดยเริ่มต้นจากรายบุคคล คือการที่รายบุคคลรักพระองค์ และดำเนินชีวิตตามหลักการของพระองค์ แล้วก็มีความเชื่อมั่น มีแรงผลักดัน มีความปรารถนาที่จะเป็นพยาน ชนะใจผู้อื่น ประกาศ และสอน เราทุกคนมีโอกาสและมีเครือข่ายอยู่บ้าง เรามีแวดวงซึ่งเชื่อมสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ โดยช่วยเสริมสร้างศรัทธา ความหวัง และวิญญาณของเขา ผ่านการที่เราดำเนินชีวิตเยี่ยงสาวก และนำหลักการเป็นสาวกเข้ามามีส่วนในความสัมพันธ์ของเรา

งานที่พระเยซูมอบหมายให้แก่สาวกของพระองค์ คือการกระจายพระกิตติคุณไปทั่วโลก ที่ไหนก็ตามที่พระองค์มอบหมายให้คุณไป ที่นั่นคือที่ประกอบพันธกิจ คุณได้รับมอบหมายให้เข้าถึงผู้ที่พระองค์ส่งมาบนเส้นทางของคุณ ในระดับรายบุคคล คุณคงจะมีส่วนร่วมในงานมอบหมายกับแต่ละคนที่พบปะ คนที่คุณทำงานด้วย ผู้คนที่คุณติดต่อพูดคุย นอกจากนี้ มีแง่มุมของการร่วมมือร่วมใจกับคนอื่น นี่อาจเกิดขึ้นโดยการผนึกกำลังในพันธกิจ หรือโดยการพบปะและอธิษฐานร่วมกัน เป็นการดีที่สุดที่จะให้คนอื่นมาประชุมและอธิษฐานร่วมกัน ถ้าจะว่ากันไปแล้ว หมู่คณะทางจิตวิญญาณเช่นนี้กลายเป็นพื้นฐาน ซึ่งช่วยให้พันธกิจในบ้านเมืองหรือประเทศของคุณเจริญเติบโต การดำเนินงานและการขยายชุมชนทางจิตวิญญาณ จะช่วยสนับสนุนการเป็นสาวก โดยช่วยให้คุณเชื่อมโยงกับพระเจ้าและผู้อื่นทางจิตวิญญาณ ในฐานะที่เป็นสาวก ขณะที่คุณแบ่งปันความศรัทธา และเติบโตด้วยกันในความศรัทธา

ทุกประเทศในโลกมีผู้คนที่ต้องการพระเยซู บ้านเมืองและทุกละแวก ผู้คนจำเป็นต้องมีพระองค์ คุณเป็นเครื่องมือที่จะนำเขามาสู่พระองค์ได้ เขาต้องได้รับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า เขาต้องการสาวกที่ไม่เพียงแต่ช่วยเขาให้พบความรอดในพระเยซู ทว่าจะเดินเคียงข้างเขาไปบนเส้นทางการเติบโตเป็นคริสเตียนและเป็นสาวก

หน้าที่ของสาวกก็คือการชนะใจผู้อื่น ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณทำอะไรไม่ได้มากนัก ก็เพียงแต่ทำเท่าที่ทำได้ พระองค์จะอวยพรที่คุณพยายาม เหมือนข้อความจากนักบุญฟรานซิส ที่ว่า “ขอให้เดินไปประกาศไป” ถึงแม้ว่าคุณไม่อาจอุทิศเวลามากนัก หรือไม่มีเวลาที่จะประกาศในตอนนี้ ชีวิตคุณก็เป็นตัวอย่างถึงความรักของพระเยซูได้

ขอให้เป็นสาวก นำพาผู้อื่นมาสู่พระเยซู และทำเท่าที่ทำได้เพื่อส่งเสริมพันธกิจ การส่งเสริมพันธกิจคือแง่มุมที่สำคัญของการเป็นสาวก คืองานมอบหมายจากพระเจ้า มีคนนำพระกิตติคุณมามอบให้คุณ มีคนนำคุณมาสู่พระเยซู คุณมีชีวิตนิรันดร์ คุณได้รับมอบหมายให้แบ่งปันกับผู้อื่น ขอให้ค้นพบว่าจะทำสุดความสามารถได้อย่างไร ในที่ซึ่งคุณอยู่ ในเมือง ในละแวกบ้าน ในหมู่ผู้คนที่คุณรู้จัก หรือในวงกว้าง ผ่านอินเตอร์เน็ต หรืออีเมล หรือการเดินทางไปต่างแดนเป็นครั้งคราว ขอให้เข้าถึงใครก็ตามที่พระเจ้ามอบหมาย โดยที่พระเจ้าแสดงให้เห็นว่าควรจะเข้าถึงเขาอย่างไร พยายามเปลี่ยนโลกในส่วนของคุณ และเปลี่ยนผู้ที่พระเจ้านำมาบนเส้นทางของคุณ

ขอให้พร้อมเสมอ ทั้งที่มีโอกาสและไม่มีโอกาส มอบพระกิตติคุณแก่ผู้ที่พระองค์นำมาพบปะคุณ นั่นคือสิ่งที่พระเยซูได้ทำ สาวกรุ่นแรกของพระองค์ก็ทำเช่นนั้น หลักความเชื่อของคริสเตียนจะเติบโตต่อไปได้ หากเป็นเช่นนั้น ในฐานะที่คุณเป็นสาวก คุณก่อเกิดผลได้ด้วยวิธีนี้ 

จัดพิมพ์ครั้งแรก เดือนมกราคม ค.ศ. 2012 ปรับเปลี่ยนและจัดพิมพ์ใหม่ เดือนกรกฏาคม ค.ศ. 2016

Copyright © 2024 The Family International