การแบ่งปันน้ำใจ

พฤษภาคม 7, 2013

บทเรียบเรียง

เราไม่ได้ตอบแทนความรักย้อนหลัง ทว่าเราตอบแทนไปล่วงหน้า — ลิลี ฮาร์ดี แฮมมอนด์

*

ผลตอบแทนน่าซาบซึ้งใจที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตนี้ คือ ไม่มีผู้ใดที่พยายามช่วยเหลือคนอื่นอย่างจริงใจ โดยที่ไม่ลงเอยด้วยการช่วยเหลือตัวเอง — ราล์ฟ วัลโด อีเมอร์สัน

*

ผมไม่ได้เสแสร้งมอบเงินก้อนนี้ให้คุณ ผมเพียงให้คุณยืม เมื่อคุณ [...] พบปะผู้อื่นที่ซื่อสัตย์ ซึ่งตกทุกข์ได้ยากเช่นกัน คุณก็จ่ายคืน โดยมอบเงินก้อนนี้ให้เขา และกำชับเขาให้จ่ายคืนด้วยวิธีเดียวกัน เมื่อเขาทำได้ และมีโอกาสทำเช่นนั้น ผมหวังว่าจะผ่านมือหลายๆ คน ... นี่คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้ผมทำประโยชน์ได้ด้วยเงินจำนวนเล็กน้อย — เบนจามิน แฟรงคลิน ในจดหมายถึง เบนจามิน เว็บบ์ ลงวันที่ 25 เมษายน 1784

*

ไม่มีการกระทำใดที่ทำด้วยใจกรุณา จะหยุดอยู่แค่นั้น ความกรุณาครั้งหนึ่งนำไปสู่อีกครั้งหนึ่ง แบบอย่างที่ดีจะมีคนทำตาม การกระทำด้วยใจกรุณาครั้งเดียวจะแผ่ขยายออกไปทุกทิศทาง แล้วจะงอกงามผลิดอกออกผล ผลยิ่งใหญ่ที่สุดที่ความกรุณามีต่อผู้อื่นก็คือ จะช่วยให้เขามีใจกรุณาเช่นกัน — อะมีเลีย เอียฮาร์ท

*

ทุกครั้งที่คุณยิ้มให้คนเดินหนังสือ หัวเราะเมื่อเพื่อนร่วมงานพูดเรื่องขบขัน ขอบคุณผู้ที่ช่วยงาน หรือปฏิบัติต่อคนแปลกหน้าด้วยความสุภาพและความนับถือ คุณก็ส่งพลังแง่บวกออกไป พลังนั้นจะสร้างความประทับใจต่ออีกฝ่าย ยังผลให้มีการส่งต่อๆ กันไป และฝังใจคนอื่นอีกมากมายที่เขาพบปะ

เมื่อแปดปีที่แล้ว ซูซานได้รับจดหมายจากเพื่อนเก่า ชื่อเฮเลน หลานของเฮเลนมีภาวะบกพร่องของพฤติกรรมการกินอย่างรุนแรง เธอจะเสียชีวิต ถ้าไม่ได้รับการบำบัดอย่างเต็มที่ ในคลินิกที่ค่ารักษาสูงลิ่ว และห่างจากบ้านหลายพันไมล์ อย่างไรก็ตาม ค่าบำบัดเกินงบประมาณของครอบครัวหลายเท่า เนื่องจากผู้เป็นพ่อตกงาน และมีปัญหาสุขภาพเองด้วย ครอบครัวจึงส่งจดหมายไปยังสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ

ซูซานรู้สึกสงสาร และค่อนข้างประหลาดใจ เพราะผู้คนแทบไม่ขอความช่วยเหลือกันอย่างเปิดเผยเช่นนี้ แม้แต่ในหมู่ญาติพี่น้อง ซูซานมีลูกสามคน เธอกับสามีตัดสินใจด้วยความยากลำบาก ว่าจะช่วยเท่าไรดี “เราลงเอยด้วยการส่งเงินไปช่วย 500 เหรียญ ซึ่งดูน้อยเหลือเกิน แต่ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนว่ามากเหลือเกินสำหรับเรา” ซูซานกล่าว

ทว่าคนอื่นตอบรับด้วยน้ำใจเช่นกัน หญิงสาวเข้ารับการบำบัดและรอดชีวิตมาได้ “ถ้าเขาไม่ส่งจดหมายขอความช่วยเหลือ เธอคงไม่รอดแน่” ซูซานกล่าว

สามปีต่อมา สามีซูซานตกงาน เขามีปัญหาสุขภาพร้ายแรงด้วย เขาไม่มีงานทำเป็นเวลาปีกว่า ครอบครัวซูซานต้องดำรงชีวิตด้วยเงินเก็บออม ซึ่งหมดไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าซูซานจะมีงานทำ แต่เขาก็หวาดวิตกมากเกี่ยวกับสภาพการเงิน

แล้ววันหนึ่งมีไปรษณียบัตรมาถึงซูซาน จากหญิงที่เธอไม่รู้จัก หญิงผู้นั้นเป็นมารดาของเฮเลน คุณยายของหญิงสาวที่มีภาวะบกพร่องของพฤติกรรมการกิน เธอเขียนมาว่าเธอได้ข่าวว่าซูซานกับสามีประสบ “ช่วงเวลาที่ยากลำบาก” และอยากจะช่วย เธอเขียนต่อไปว่าเธอทราบดีว่าการประสบปัญหาด้านการเงินเป็นอย่างไร

“หญิงน่าทึ่งผู้นี้ ซึ่งเลี้ยงดูลูกสามคนตามลำพัง จากการทำงานที่มีรายได้น้อย ส่งเช็ค 2,000 เหรียญมาให้เรา” ซูซานกล่าว

เมื่อคุณเข้าใจพลังความกรุณาอย่างแท้จริง คุณก็ตระหนักว่าการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความกรุณา ความนับถือ และน้ำใจ คุณจะได้รับผลตอบแทน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง — ลินดา แคพแลน เธเลอร์ และโรบิน โคยัล[1]

*

จงให้ และท่านจะได้รับ ในตักของท่านจะได้รับการตวงด้วยทะนานถ้วนยัดสั่นแน่นพูนล้น เพราะว่าท่านตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด จะตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น — พระเยซู ลูกา 6:38[2]

*

เมื่อคุณนึกย้อนหลังไปในชีวิต คุณจะพบว่าชั่วขณะที่คุณใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ก็คือ ชั่วขณะที่คุณทำอะไรด้วยใจที่เปี่ยมความรัก — เฮนรี่ ดรัมมอนด์

*

ไม่มีวิธีผิด ในการทำสิ่งใดด้วยใจกรุณา — แคเธอรีน ไรอัน ไฮด์

*

ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินชีวิตด้วยความกรุณา และความรักที่ไม่มีเงื่อนไข เมื่อนั้นโลกก็จะกลายเป็นดุจสวนดอกไม้นานาชนิดที่งอกงามและเบ่งบาน — อลิซาเบ็ธ คูบเลอร์-รอส

*

นิสัยใจคอที่ดีคือศิลาจารึกหลุมศพที่ดีที่สุด ผู้ที่รักคุณและได้รับความช่วยเหลือจากคุณ จะระลึกถึงคุณ เมื่อดอกไม้เยี่ยมหลุมศพเหี่ยวแห้งไปแล้ว จารึกชื่อไว้ในหัวใจ ไม่ใช่บนหินอ่อน — ชาร์ลส สเปอร์เจียน

*

วันนี้ยิ้มให้คนแปลกหน้า นั่นอาจเป็นความแจ่มใสครั้งเดียวที่เขาเห็นตลอดทั้งวัน — เอช แจ็คสัน บราวน์

*

ระลึกไว้ว่าไม่มีการกระทำด้วยใจกรุณาที่เป็นการกระทำเล็กๆ หรอก เพราะแต่ละครั้งจะส่งผลกว้างไกล ซึ่งคำนวณไม่ได้ — สก็อต อาดัมส์

*

(คำแปล)

เคยได้รับความกรุณาบ้างไหม
อย่าเก็บเอาไว้ส่งมอบต่อไป
เพราะให้คุณคนเดียวก็หาใช่
ขอให้มอบต่อไปแก่คนรอบกาย

เผื่อแผ่ความกรุณานานเท่านาน
ช่วยสมานใจชอกช้ำอย่านิ่งดูดาย
ชาวสวรรค์จะล่วงรู้ไม่มีวันสูญหาย
ขอให้ส่งมอบต่อไปเป็นสุขทุกวันคืน

เฮนรี เบอร์ตัน

*

เราควรจะให้เหมือนกับที่ได้รับ โดยมอบให้ด้วยความยินดี ไม่รีรอ ไม่ลังเลใจ เพราะสิ่งที่เก็บไว้เองจะไม่มีประโยชน์อันใด — เซเนกา

*

คนที่นำความแจ่มใสไปสู่ชีวิตผู้อื่น ไม่อาจปิดกั้นความแจ่มใสไว้จากตัวเอง — เจมส์ เอ็ม แบร์รี่

*

ถ้อยคำจากใจกรุณาคำเดียว มอบไออุ่นในช่วงฤดูหนาวได้นานถึงสามเดือน — ภาษิตจีน

*

ถ้อยคำจากใจกรุณาอาจเป็นคำสั้นๆ ง่ายๆ ทว่าก้องกังวานไปไม่มีที่สิ้นสุด — แม่อธิการเทเรซ่า

*

ผู้ใดที่ไม่ได้ทิ้งผลสำเร็จยิ่งใหญ่ไว้เบื้องหลัง ทว่าทำสิ่งเล็กน้อยด้วยความกรุณาอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่ได้ดำเนินชีวิตที่สูญเปล่า — ชาร์ล็อต เกรย์

*

บุคคลผู้ที่กดขี่คนยากจน ดูแคลนพระผู้สร้าง ส่วนบุคคลที่เวทนาคนขัดสน ถวายเกียรติแด่พระเจ้า — สุภาษิต 14:31[3]

*

เมื่อท่านเก็บเกี่ยวข้าวและลืมฟ่อนข้าวไว้ในนาฟ่อนหนึ่ง อย่ากลับไปเอามาเลย ทิ้งไว้ให้คนพลัดถิ่น เด็กกำพร้า และแม่ม่าย เพื่อพระเจ้าจะได้อวยพรกิจการทั้งหลายจากมือท่าน — พระบัญญัติ 24:19[4]

*

บุคคลที่เวทนาคนยากจน ก็ให้พระเยโฮวาห์หยิบยืม พระองค์จะตอบแทนการกระทำของเขา — สุภาษิต 19:17[5]

*

“ท่านที่ได้รับพรจากพระบิดา จงมารับอาณาจักรซึ่งตระเตรียมไว้เป็นมรดกสำหรับท่าน ตั้งแต่แรกสร้างโลก เพราะว่าเมื่อเราหิว ท่านก็จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ต้อนรับเรา เราเปลือยกาย ท่านก็เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วย ท่านก็มาเยี่ยมเรา เมื่อเราต้องขัง ท่านก็มาเยี่ยมเรา”

เวลานั้นผู้ชอบธรรมจะทูลว่า “ที่ข้าเห็นพระองค์หิว และได้จัดมาถวายพระองค์แต่เมื่อไร หรือกระหายน้ำ และได้ถวายให้พระองค์ดื่มแต่เมื่อไร ที่ข้าเห็นพระองค์เป็นแขกแปลกหน้า และต้อนรับพระองค์ไว้แต่เมื่อไร หรือเปลือยกาย และได้สวมฉลองพระองค์ให้แต่เมื่อไร ที่ข้าเห็นพระองค์ประชวรหรือต้องขัง และมาเฝ้าพระองค์นั้นแต่เมื่อไร”

แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ซึ่งท่านได้กระทำแก่คนใดคนหนึ่งในพวกพี่น้องของเรานี้ ถึงแม้เขาจะต่ำต้อยเพียงไร ก็เหมือนได้กระทำแก่เราด้วย” — พระเยซู มัทธิว 25:34-40[6]

*

อะไรคือข่าวสารที่พระเยซูมอบแก่สาวก ตอนอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ก่อนที่พระองค์จะถูกจับกุม โบยตี และสังหาร “ถ้าเจ้ารักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้ได้ว่าเจ้าเป็นสาวกของเรา”[7] พระองค์พูดถึงความรัก ว่าความรักสำคัญที่สุด

คริสเตียนรุ่นแรกๆ เปลี่ยนโลกให้กลับตาลปัตร ด้วยความรักของพระเจ้า ซึ่งเขาพบในพระเยซูคริสต์ แม้แต่ฝ่ายปกครองชาวโรมันก็ทึ่งใจในความรักของคริสเตียน เขากล่าวว่า “ดูเถิด คริสเตียนรักกันฉันใด!” วิถีชีวิตคริสเตียนทำให้พวกโรมันเชื่อมั่นว่าศรัทธาของเขามีจริง และพวกโรมันฉงนใจว่า “พระคริสต์ผู้นี้คือใครกัน และพระองค์ทำให้คุณมีความสุขได้อย่างไร ถึงแม้ว่าคุณไม่มีอะไร คุณก็มีทุกสิ่ง! ฉันจะพบความสุขเช่นนี้ได้อย่างไร” ในช่วงระยะเวลา 200 ปี เมื่อความเชื่อคริสเตียนเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย หนึ่งในห้าคนของจักรวรรดิโรมันยืนยันว่าตนเป็นคริสเตียน และพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์แผ่กระจายไปทั่ว ในโลกที่รู้จักกันสมัยนั้น!

ความรักเล็กน้อยส่งผลไปแสนไกล เหนือล้ำกว่าที่คุณเคยนึกฝันหลายเท่า — เดวิด บรานท์ เบิร์ก[8]

จัดพิมพ์บนไซต์จุดยึดเหนี่ยว พฤษภาคม ค.ศ.2013


[1] หนังสือ The Power of Nice (สำนักพิมพ์นิวยอร์ก: ดับเบิลเดย์ ปี 2006)

[2] พระคัมภีร์

[3] พระคัมภีร์

[4] พระคัมภีร์

[5] พระคัมภีร์

[6] พระคัมภีร์

[7] ยอห์น 13:35

[8] พลังประจำวัน (สิ่งพิมพ์ของออโรร่าโปรดั๊กชั่น ปี 2004)

Copyright © 2024 The Family International